แคมป์ธรรมะวัยใส

วัย Preteen  9-12 ปี คือช่วงรากฐานของการเป็นวัยรุ่น เมื่อมีรากชีวิตที่แข็งแรง ลูกจะเติบโตเป็นวัยรุ่นที่มั่นคง… ในยุค 5G ที่สับสนวุ่นวาย โลกหมุนเร็วจนปรับตัวแทบไม่ทัน เต็มไปด้วยสิ่งยั่วยุในสังคม พ่อแม่ ผู้ปกครองควรสอนลูกอย่างไร ??? คุณธรรมข้อไหนที่เราสามารถสร้างให้ลูกรักได้ทันเวลาป้องกันการตกเป็นเหยื่อของเทคโนโลยีและไม่หลงไปกับค่านิยมของสังคมที่ให้คุณค่าแก่ความสำเร็จโดยไม่สนใจความดีและความสุขของลูก

เชื่อว่าในแคมป์นี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ผู้ปกครองและน้องๆ ได้เคล็ดลับการบ่มเพาะรากชีวิตคุณธรรม ที่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งจิตใจ ศักยภาพการนับถือตนเอง และสัมพันธภาพเชิงบวกในครอบครัวให้ดียิ่งๆ ขึ้น อันจะส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนแนวทางการเลี้ยงดูได้อย่างเหมาะสมและสมดุลมากขึ้น เพื่อให้น้องๆ ได้ประสบความสำเร็จ และมีความสุขอย่างยั่งยืน

• วิทยากรผู้สอนหลักคือ คุณครูพี่แอม ธนันรดา ธนานาถ ที่เป็นทั้งโค้ชพัฒนาศักยภาพเด็กและความสัมพันธ์เชิงบวกในครอบครัว ประสบการณ์การโค้ชและที่ปรึกษาครอบครัวมากกว่า 10 ปี
• เป็นผู้ปฏิบัติธรรมมาร่วม 26 ปี โดยได้ปฏิบัติธรรมกับท่านประธานมูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต เป็นระยะเวลา 11 ปี ได้นำแนวทางธรรมะผสมผสานในการพัฒนาลูก ควบคู่กับที่ไปศึกษา Certified จากต่างประเทศในหลากหลายด้านของการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ ทั้งนี้จากประสบการณ์ที่ได้เป็นโค้ชแก้ปัญหาและพัฒนาศักยภาพเด็กไปพร้อมกับการสร้างจิตใจที่เข้มแข็ง รวมไปถึงได้สอนและชี้แนะแนวทางการสื่อสารเชิงบวกเพื่อพัฒนาสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว โดยสอดแทรกธรรมะที่เหมาะสมตามวัยในความเป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นลูก เป็นพี่น้อง เข้าไปด้วยอย่างกลมกลืน
• ปัจจุบันเป็นวิทยากรรับเชิญของมูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต ในคอร์สธรรมะวัยใส “ไขความลับ..ขุมทรัพย์พลังบวก สู่ความสุข สำเร็จ” (8-12 ปี) ซึ่งจัดมาแล้ว 10 รุ่น และแคมป์ธรรมะวัยใส – 1 Day Special ตอน “สร้างรากชีวิตให้ลูกรักวัย Preteen ยุค 5G” เพื่อเป็นเกราะป้องกันไม่ให้ลูกพลาด “ตกเหว” (9-12 ปี)

นอกจากนี้ยังนำทีมวิทยากร CSR ไปบรรยายในหัวข้อ “ถอดรหัสตัวตน ค้นพบตัวเอง…The Journey to your dream” ให้กับนักเรียนระดับชั้น ม.1-ม.6 ในโรงเรียนทั่วไปในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมาได้สั่งสมประสบการณ์จากการออกไปบรรยายให้เยาวชนกว่า 13,000 คน จึงเข้าใจปัญหาของเด็กวัยรุ่นในยุคปัจจุบันที่เป็นอยู่ และสามารถปลดล๊อคปัญหาในเรื่องเป้าหมายของการมีชีวิตและมุมมองใหม่ที่มีต่อพ่อแม่ ทำให้เด็กค้นพบตัวเองและได้เห็นคุณค่าของการมีชีวิต รวมถึงวิธีการสร้างความสุขภายในให้กับตนเองได้และรักตนเองเป็น

คุณครูพี่แอมมีบุตรสาว 1 คน เป็นเด็กที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์และสังคมดี (EQ และ SQ)  หากพูดถึงผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจัดอยู่ในระดับดีมาก เป็นเด็กอินเตอร์ที่ได้รับทุนการศึกษาตั้งแต่เล็กจนจบ โดยที่ไม่ได้ผ่านระบบการติว แต่ผ่านการเรียนรู้แบบธรรมชาติเชิงบูรณาการและอบรมธรรมะ ทั้งสติ สมาธิ และคุณธรรมสำคัญต่าง ๆ รวมถึงการแบ่งเวลาเพื่อทำคุณประโยชน์ต่อสังคมอยู่เสมอ เพื่อให้มีจิตสำนึก มีความรับผิดชอบต่อตนเองและผู้อื่น มีมารยาทและความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความกล้า มีความรักและนับถือตนเอง มีความอดทนที่จะต่อสู้กับปัญหาอุปสรรคต่าง ๆ โดยไม่ยอมจำนน น้องจบจากโรงเรียนอินเตอร์ Year 13 ด้วยเกรดเฉลี่ย 4.00 พร้อมทั้งพ่วงตำแหน่งประธานนักเรียนในปีเดียวกัน และได้รับ Top Achiever Award เป็น 1 ใน 7 ผู้สอบ Cambridge International AS and A Levels ได้คะแนนสูงสุดของโรงเรียน เมื่อเลือกศึกษาต่อปริญญาตรีที่ไทยก็สามารถสอบเข้าได้ทุกคณะที่เลือก ปัจจุบันศึกษาอยู่ที่คณะ BAScii นวัตกรรมบูรณาการจุฬาฯ และเป็นผู้นำในการจัดกิจกรรมสำคัญต่าง ๆ ของคณะทั้งนี้ด้วยการบ่มเพาะรากชีวิตและคุณธรรมสำคัญต่าง ๆ ที่จะเป็นเกราะคุ้มกันจิตใจทำให้น้องประสบความสำเร็จในสิ่งที่เลือกทำด้วยตนเองและมีความสุขในการใช้ชีวิตตามวัย

• แคมป์ธรรมะวัยใส 1–Day Special รับสมัครเด็กไม่เกิน 200 คน และจัดในห้องประชุมใหญ่ ที่สามารถทำกิจกรรมในพื้นที่ที่กว้างกว่า และให้บรรยากาศที่ตื่นตาตื่นใจเด็ก ๆ มากกว่า ได้เจอเพื่อนใหม่ที่มีจำนวนมากกว่า ซึ่งคอร์สฯ ที่จัดที่มูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต จะรับได้เพียงครั้งละ 25 คน
• ในส่วนกิจกรรมของแคมป์จะแตกต่างจากในคอร์ส โดยเป็นกิจกรรมที่ปลูกฝัง บ่มเพาะรากคุณธรรม 5 ข้อคือ
  1. ความรักและเห็นคุณค่าของตัวเองและผู้อื่น
  2. ความกล้าหาญและเอาชนะใจตน
  3. ความเพียรอย่างมีวินัย
  4. ความอดทน ไม่ย่อท้อต่อปัญหาและอุปสรรค
  5. กตัญญูรู้คุณและตอบแทนคุณ

ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นคุณธรรมสำคัญต่อการดำรงชีวิต เป็นเกราะป้องกันไม่ให้เดินผิดเส้นทางจนพลาด “ตกเหว”

มีการแบ่งน้อง ๆ เป็นกลุ่ม กลุ่มละ 10 คนต่อพี่เลี้ยงกระบวนกร 1 คน โดยจัดกิจกรรมให้เด็กได้เรียนรู้อย่างสนุกสนาน และสอดแทรกคุณธรรมทั้ง 5 ข้อ น้อง ๆ จะได้เรียนรู้คุณธรรมผ่าน เกม คลิปวิดีโอ เรื่องเล่าและนิทาน และทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อน ๆ ในกลุ่มและพี่เลี้ยงกระบวนกร

พี่เลี้ยงกระบวนกรที่มาช่วยดูแลน้อง ๆ เป็นจิตอาสาของมูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต มาจากหลากหลายอาชีพแตกต่างกัน บ้างเป็นโค้ช ผู้บริหาร ติวเตอร์ ครู ล่าม ทันตแพทย์ แอร์โฮสเตส สถาปนิก เจ้าของธุรกิจ ฯลฯ โดยเสียสละเวลามาเป็นจิตอาสาทำงานเพื่อเป็นบ่อเกิดความดีงามให้กับเด็กและเยาวชนไทย ซึ่งทุกท่านได้ผ่านการอบรมทักษะการสื่อสารเชิงบวกกับเด็กมาแล้ว

ไม่แนะนำ เพราะหลักสูตรเหมาะสำหรับเด็กในวัยที่กำหนดเท่านั้น สำหรับเด็กแล้วแม้อายุห่างกันไม่มากเท่าไร แต่พัฒนาการของเด็กจะมีความแตกต่างกันอย่างมาก หากพาน้องที่อายุมากกว่า หรือ ต่ำกว่าเกณฑ์มาอบรม แทนที่จะเป็นประโยชน์ต่อน้องอาจเป็นผลเสียต่อน้องได้

• ประโยชน์สำหรับน้อง ๆ : น้อง ๆ มีแรงบันดาลใจที่จะกล้าฝันและฝึกมีเป้าหมายที่ตนอยากจะทำ พร้อมทั้งรู้จักจัดลำดับความสำคัญและการจัดสรรเวลา รู้จักข้อดีและเห็นคุณค่าของตนเองที่จะพัฒนาไปเป็น self Esteem เรียนรู้ Growth Mindset เห็นคุณค่าของการฝึกความอดทนและการมีความเพียร ซึ่งจะทำให้การเรียนรู้ทักษะวิชาการ และทักษะด้านต่าง ๆ ทำได้ง่ายขึ้น มีแรงบันดาลใจที่จะกล้าหาญเพื่อฝึกเอาชนะใจตนเอง มีมุมมองต่อพ่อแม่ในเชิงบวก และเริ่มมีแนวคิดรู้คุณตอบแทนคุณสมวัย ฝึกฝนวิธีสร้างความสงบสุขภายในด้วยสมาธิ ในยามเผชิญโลกที่หมุนเร็ว ซึ่งเมื่อทำเป็นประจำยังส่งผลต่อสมองที่จำดี เรียนเก่ง อารมณ์ดี มั่นคง อีกทั้งน้อง ๆ จะมีสัมพันธภาพภายในครอบครัวที่แน่นแฟ้นมากขึ้นจากกิจกรรมสานสายใยฯ ในตอนท้าย นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้ทำความรู้จักเพื่อนใหม่ ๆ ต่างโรงเรียนที่จะเป็นมิตรภาพที่ดีต่อไป
• ประโยชน์สำหรับผู้ปกครอง : ผู้ปกครองจะได้รับ mindset การเลี้ยงดูลูกวัยพรีทีนที่กำลังจะก้าวเข้าสู่วัยรุ่น เรียนรู้โลกแห่งการสื่อสารเชิงบวกที่จะช่วยสร้างสัมพันธภาพที่เข้มแข็งยิ่งขึ้นภายในครอบครัวในระหว่างเส้นทางการพัฒนาศักยภาพลูกด้านต่าง ๆ ไปพร้อมกัน และผู้ปกครองจะเข้าใจถึงประโยชน์ความสำคัญและความจำเป็นของการนำธรรมะ ทั้งคุณธรรม สติ สมาธิ มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันและครอบครัว รวมถึงทำให้ได้พบครอบครัวเพื่อนต่างโรงเรียนที่มีแนวคิดเดียวกันในการพัฒนาศักยภาพลูก ควบคู่ไปกับคุณธรรม

คอร์สนี้มีกิจกรรมสำหรับน้องทั้งวัน 8.00 – 17.00 น. และมี Section จำเป็นและเป็นประโยชน์สำหรับผู้ปกครองทั้งสองช่วง คือ

• ช่วงเช้า 8.30 – 9.30 น. ผู้ปกครองเข้าฟังปฐมนิเทศ เพื่อเข้าใจว่าการสื่อสารเชิงบวกสำคัญอย่างไรกับการได้ความสัมพันธ์ที่ดีในระหว่างการพัฒนาศักยภาพลูกด้านต่าง ๆ
• ช่วงบ่าย 16.00 – 16.30 น. ผู้ปกครองเข้าฟังปัจฉิมนิเทศ 16.30 – 17.00 น. กิจกรรมสานสายใยผู้ปกครองและเด็ก ต่อเนื่องด้วยงานประกาศรางวัลของน้อง ๆ พร้อมถ่ายรูปร่วมกัน

เนื่องด้วยสถานที่ค่อนข้างจำกัด ในระหว่างวัน มีสถานที่แนะนำเป็นมอล์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ บริเวณใกล้เคียง ททบ.5 ที่สามารถเดินไปได้ค่ะ

จำเป็นอย่างยิ่ง เหมือนเป็นโบนัสที่หาได้ยากจากที่ไหน เพราะครูพี่แอมจะให้ข้อมูลสำคัญ เป็นความรู้ที่กลั่นมาจากประสบการณ์การโค้ชครอบครัวกว่า 10 ปี และโดยเฉพาะในปีที่ผ่านมาที่ทีมงาน CSR ภายใต้มูลนิธิโรงเรียนแห่งชีวิต ได้ออกไปบรรยายให้กับเด็กวัยรุ่นชั้นมัธยมศึกษา ม.1-ม.6 มากกว่า 13,000 คนตามโรงเรียนต่าง ๆ ซึ่งเชื่อว่ามีประโยชน์ต่อการปรับแนวทางการเลี้ยงดูให้ทันต่อเหตุการณ์ปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง

ผู้ปกครองที่เคยพาบุตรหลานมาอบรมแล้ว จะดียิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก หากได้รับชุดข้อมูลความรู้เพื่อหล่อเลี้ยงรากคุณธรรมของลูกที่ถูกปลูกขึ้นในแคมป์ให้มีความเจริญงอกงามต่อไปอย่างมีความสุข สำเร็จ และยั่งยืน

สามารถเข้าร่วมได้ เนื้อหาและกิจกรรมที่สอนในแคมป์เป็นสิ่งสากล ที่ไม่ว่าน้องจะนับถือศาสนาใดก็สามารถเรียนรู้และร่วมกิจกรรมได้ เช่น กิจกรรมสร้างความสงบสุขในใจ หรือการนั่งสมาธิ ที่แม้แต่บริษัทชื่อดังอย่าง Facebook, Google และ Nike ก็ส่งเสริมให้พนักงานปฏิบัติในเวลาพักเช่นกัน